วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข้าวต้มปลา เก๋า สูตรโบราณ สุดแสนอร่อย

ข้าวต้มปลา เก๋า สูตรโบราณ สุดแสนอร่อย

หลายวันก่อนผมและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสแวะเวียนไปในย่านราชวัตร ระหว่างทางเกิดหิวขึ้นมา เลยนึกขึ้นได้ว่า ในย่านนี้มีร้านข้าวต้มปลาเก๋า สูตรโบราณ อยู่ร้านหนึ่ง (คาดว่าเปิดมาไม่ต่ำกว่า 30ปี แล้ว เทียบจากอายุตัวเอง...อิ อิ) ซึ่งเขาเปิดเป็นร้านข้าวต้ม 2คูหา ขายข้าวต้มปลาเก๋าเป็นหลัก และอาหารตามสั่งอีกหลายอย่าง
ที่ร้านนี้เขาจะเป็นห้องแถว2คูหา ตั้งอยู่ริมถนนพระราม5 ไม่ไกลจาก สน.ดุสิต (ใครที่นึกไม่ออกว่า สน.ดุสิต อยู่ตรงไหน ก็อยู่ห่างจากลานพระบรมรูปทางม้าเพียง 10 นาทีนั้นเอง) ข้าวต้มปลา เก๋าที่นี่ยังคงเป็นรสชาติแบบโบราณ ดังเดิม ยังไงปัจจุบันก็อย่างนั้น ที่ทราบเพราะว่าผมทานร้านนี้มาตั้งแต่วัยประถม น้ำซุปมีความหวานหอม อย่างบอกไม่ถูก(ไม่เหมือนใคร) และยิ่งน้ำจิ้ม เต้าเจี้ยวแล้วด้วย โห.....บอกได้คำเดียวว่าเด็ด สนนราคาก็ชามละ 80 บาท ถ้าเทียบกับความ อร่อย และเนื้อปลาเก๋า แท้ๆแล้วก็ถือว่า คุ้มมากครับ เมนูเด็ดที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง เช่น ข้าวต้มปลาเก๋า ปลาลวกจิ้มเต้าเจี้ยว ต้มยำหัวปลา(รสเด็ดมาก) อ๊อสวนกระร้อน



“คุณวิบูลย์” เจ้าของร้านได้เล่าให้ผมฟังว่า.....เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว เริ่มต้นขาย ข้าวต้มปลาเก๋า จากตึกแถวแค่ห้องเดียว โดยไม่ได้คิดหวังกำรี้กำไรอะไรมากมาก อาศัยเพราะใจรัก ผลที่ได้ก็คือมีการบอกกันปากต่อปาก ลูกค้ามากขึ้นมากขึ้น จนต้องขยายกิจการมาเรื่อยจนถึงทุกวันนี้

“คุณวิบูลย์” ยังบอกอีกว่าถ้าเรามีใจรักในการทำงาน งานก็จะรักเรา ถ้าเราขยันซื้อสัตย์และอดทนกับอาชีพของเรา อาชีพของเราก็จะขยันซื้อสัตย์และอดทน กับเราเช่นกัน คล้ายกับคำกล่าวที่ว่า ทำสิ่งใด ได้สิ่งนั้น



สถานที่ตั้ง ข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนา:
556 พระราม 5 ถนนนครไชยศรี ดุสิต กรุงเทพฯ 10300

เบอร์โทรศัพท์ ข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนา:
0-2243-7479 , 0-2241-1505 , 089-114-7448

การเดินทาง ข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนา:
จาก ถนนพระราม 5 ด้านซ้ายมือเป็นสวนสัตว์ดุสิต ตรงไป2สี่แยกจะพบสี่แยกราชวัตร
เลยไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนา อยู่ทางด้านขวามือ
หรือจะโทรถามทางกับ คุณวิบูลย์ โดยตรงก็ได้ครับ 089-114-7448

สถานที่จอดรถ ข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนา:
หน้าร้านข้าวต้มปลาวิบูลย์โภชนาริมถนนพระราม 5
และด้านหลังของร้าน

ประโยชน์ ของปลา

ประโยชน์ ของปลา

1. ปลาสามารถแยกประเภทและชนิดได้อย่างไร

จริง ๆ วิธีแยกประเภทของปลา คงจะมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่า จะแยกเพื่อประโยชน์ประเภทใด แต่ในทางวิชาการแพทย์ หรือที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ก็คงจะแยกเป็นปลาน้ำจืด กับปลาน้ำเค็ม

2. ในเนื้อปลามีสารอาหารชนิดใดบ้างที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย

ด้านหลัก : จะเป็นโปรตีน ซึ่งในเนื้อปลา จะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไขมันจะมีอยู่บ้าง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของปลา อย่างในปลาน้ำจืด จะมีไขมันไม่มากนัก ยกเว้นพวกปลาสวาย หรือปลาสลิดตากแห้ง ส่วนปลาทะเล ก็จะมีไขมันอีกประเภท ซึ่งจะแตกต่างจากปลาน้ำจืด พวกที่เป็นกรดไขมัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เราพบว่า มันมีคุณค่าในแง่ ของการลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และอาจจะช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือไขมันในเลือดสูง นอกจากนั้น เครื่องใน ตับปลา ก็จะมีน้ำมันและวิตามิน ในกลุ่มที่ละลายได้ดีในไขมัน เป็น วิตามิน A D E K และ แร่ธาตุ โดยเฉพาะในตัวปลาบางชนิด ที่เรารับประทานได้ ก็จะได้แคลเซียมด้วย

3. ปกติเราควรรับประทานอาหารประเภทปลามากน้อย เพียงใดต่อวัน

ปกติร่างกายของคนเรา จะต้องการโปรตีนแตกต่างกันไป แล้วแต่ช่วงวัย เช่น วัยเด็กจะต้องการโปรตีนสูง 1.2 - 1.5 ต่อ น้ำหนักต่อ 1 กิโลกรัม ในผู้ใหญ่ 0.8-1 กรัม ต่อ กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งในแต่ละวัน ก็ควรบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย

4. ในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพมีอะไรบ้าง

ด้านหลัก : ก็จะได้โปรตีน เพราะโปรตีน เพราะโปรตีนในเนื้อปลา จะย่อยง่าย มีคุณค่าในแง่ของการบำรุงสมอง การพัฒนาสมองในเด็ก โดยเฉพาะปลาทะเล นอกจากจะได้โปรตีนแล้ว ยังจะได้แร่ธาตุไอโอดีน จะมีบทบาทในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะที่ไกลจากทะเล ก็จะมีความเสี่ยงก็จะเกิดโรคคอพอก ในกลุ่มผู้สูงอายุก็เป็นแหล่งโปรตีน ที่รับประทานง่าย ย่อยง่าย ก็จะเป็นประโยชน์ของปลา